Posts tagged: certificate

SQL Server 2008 การเริ่มต้นที่ยากลำบากสำหรับผม

ช่วงนี้งานเข้าเยอะมาก เพราะหลังจากต่อ Global Load Balance เสร็จแล้ว

ก็ ต้องนำมันไปต่อร่วมจักรวาลกับขบวนการจูเรนเจอร์ตัวอื่นๆอย่าง Firewall, Router (อยากจะบอกว่าใช้ Juniper Firewall ทำ Router ตอนเทสต์ระบบ เพราะไม่มี Router ตัวอื่นเลย T_T) และ Infra เดิมอีก

เรียกว่าหน้ามืดไปวันละหลายตลบ ไล่ Route ทีมึนที

.

.

ใน ช่วงหลังๆผมจะศึกษาและลองทำพวก Windows Server, Exchange, ISA ค่อนข้างลึกพอสมควร เพราะผมจะทำงานหนักไปทางการ Service พวก Microsoft Product เรียกว่าในช่วงที่ศึกษานี่ทำจนคล่อง คล่องปุ้บก็ไปสอบ Certificate ครับ ซึ่งผมแนะนำให้สอบนะครับ เป็นการทดสอบตัวเราเองด้วย แต่อาจจะไม่ต้องสอบให้มากวิชาหรอกครับ เอาเน้นๆเฉพาะที่เราทำงานและแม่นๆพอ และสอบแล้วต้องหลุดน้อยๆตอนทำงานนะครับ ไม่งั้นไปหลุดที่ไซต์เมื่อไร โดนแซวกระจายครับ

หลังจากที่ผมศึกษาพวกนี้ไปจนค่อนข้างแน่ใจว่าไปไหนก็รอดแล้ว เหลือบๆมองไป เฮ้ย SQL Server ตูข้ายังไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยนี่หว่า

เลยตัดสินใจว่า เอาล่ะลองกับมันซักตั้งดีกว่า…

ในช่วงนี้ผมมาเริ่มต้นอ่าน SQL Server 2008

พื้นฐานเดิมของผมต้องบอกว่าแทบจะเริ่มจากศูนย์เลย

ถึงจะเคยมั่วทำตัวเหมือน DBA มาแป้บนึง

แต่ ก็ต้องบอกว่าที่รอดมาได้ในช่วงนั้นน่ะ เพราะผมอาศัยอากู๋ การพยากรณ์ รวมทั้งที่ต้องขอบคุณครูภาษาอังกฤษที่ช่วยให้ผมอ่านเมนูมันออกได้บ้าง

ในอดีตผมจะเขียนโปรแกรมได้ดีในระดับหนึ่ง (อาจารย์ชมด้วยนะเออ) แต่พอมาทำงานก็ไปทางสาย Network ซะงั้นเลยห่างไปนาน

การกลับมาในคราวนี้ผมจึงมาในแบบฉบับของ DBA (Database Admin) ไมใช่โปรแกรมเมอร์

ต้องบอกว่ายากพอดูเลยนะครับสำหรับผมที่ห่างหายจากของแบบนี้ไปนาน

แต่…

ไฮไลต์ของเรื่องนี้อยู่ที่หนังสือครับ

ปกติ ผมศึกษา Microsoft Product จาก Microsoft Press เป็นหลัก เพราะเป็นของเขาเอง ผมว่าเข้าใจง่ายดี ในขณะที่พวก Sybex หรือ McGraw หรือ Syngress ผมก็ว่าดี แต่จะดู Advance ไปนิดสำหรับผู้เริ่มต้น

แต่ สำหรับ SQL Server ของ Microsoft Press งวดนี้ผมอ่านไปได้ประมาณ 3 Chapter แทบหลับครับ คือตาคนเขียนผมเข้าใจว่าแกเทพพอตัวครับ แต่ที่แกเขียนมาใน Chapter แรกๆ มันมาแนว Conceptual ทั้งดุ้น (ซึ่งผมเข้าใจว่าท่านที่เป็น SQL อ่านได้สบายมาก แต่ผมแทบไม่เป็นนะครับ)

คนเพิ่มเริ่มตั้งไข่อย่างผมก็เสร็จสิครับ อ่านไปยังไงก็จะหลับให้ได้เลย

ตอน ที่มาเขียนบล็อคนี้ก็อ่านอยู่ครับ ข้าม Chapter ไป Chapter หลังๆเข้าใจดีและง่ายกว่ามาก เพราะออกแนวอธิบาย Functional และวิธีทำที่จับต้องได้แล้วครับ แทบไม่มี Conceptual โผล่มาเท่าไหร่

อย่างไรก็ตาม ผมก็กำลังมองๆหาเล่มอื่นๆมาอ่านเสริมไปเหมือนกันครับ

หากเล่มไหนดีอย่างไรจะมาเล่าต่อวันหลังนะครับ

Certificate สอบแล้วได้อะไร สำคัญขนาดไหน

เชื่อว่าหลายๆท่านในสายไอทีคงรู้ถึงความสำคัญของ Certificate หรือที่เรียกกันติดปากว่าใบเซอร์ดีอยู่แล้ว
แต่สำหรับน้องใหม่ทั้งหลายอาจจะยังไม่เข้าใจลึกซึ้งเท่าใดนักว่าเจ้าใบนี้มันสำคัญขนาดไหน
มีแล้วเอาไปทำอะไรได้ หรือสักแต่ว่ามีก็พอ

เอาล่ะบทความแรกของบล็อคก็เลยขอถือโอกาสเล่าเรื่องใบเซอร์ก่อนเลยดีกว่า

ใบ เซอร์หากมองกันตามลักษณะเนื้อหาเป็นหลัก ผมขอจัดไว้สองประเภท (ท่านอื่นอาจจัดอีกแบบหรือหลายๆแบบก็ได้ครับ แต่อันนี้ของผมเองเท่านั้น) คือ

1. Product Certificate สาระสำคัญของใบเซอร์จะมุ่งเน้นไปที่สินค้าจากยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งตรงๆไปเลย ไม่มีเอาเจ้าอื่นมาเกี่ยวข้อง ยกตัวอย่างเช่น Cisco (CCNA, CCNP, CCIE และอีกมาก) หรือ Microsoft (MCSE, MCSA, MCITP, MCTS, MCP และอื่นๆ)

2. Natural Certificate อันนี้มาแนวเน้นคอนเซปต์ ไม่อิงกับเจ้าใดทั้งสิ้น เช่น CISSP สำหรับวงการ Security, CEH สำหรับวงการแฮกกิง หรือ Comptia Network+ สำหรับเรื่อง Basic Networking

ทีนี้ก็จะมีคำถามต่อมาว่า “แล้วฉันจะสอบอันไหนดีล่ะเนี่ย”

คำตอบสั้น “It depends…” หรือ “แล้วแต่คุณ”

เพราะจริงๆแล้วผมเชื่อว่าคนทุกคนไม่ได้ทำงานในลักษณะเดียวกันแน่นอน
ยก ตัวอย่างเช่น หากคุณจะไปทำงานในสาย Network Infrastructure ซึ่งใช้ Cisco แทบจะยกแผงในส่วนงานที่คุณเข้าไปเกี่ยวข้อง แน่นอนทางเลือกที่ดีที่สุดคือ Cisco Certificate แน่นอน
แต่หากคุณไปอยู่ในองค์กรที่ใช้ Microsoft Product กันทั้งองค์กร แถม Network Infrastructure ทั้งหมดดูแลโดย Outsource ล่ะ แน่นอน Microsoft Certificate คือตัวเลือก

เมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าจะสอบอะไร ขั้นตอนต่อไปล่ะจะเริ่มจากอะไรดี

อันนี้เอาจากประสบการณ์ตรงเลยขอแนะนำให้

1. อ่านหนังสือแบบ Official Book ก่อนเลยถ้าหาได้ หากหา Official Book ไม่ได้ก็ลองเข้าไป Amazon ดูว่าใบเซอร์ที่เราจะสอบ ชาวโลกเขาใช้หนังสือเล่มไหนกันบ้าง ซึ่งในหลายๆกรณี Official Book นั้นมีคนนิยมอ่านน้อยกว่าตัว Recommended Book ที่ชาวบ้านเขาอ่านกันซะอีก

2. ทดสอบทำ Lab ให้แม่น พยายามจำให้ได้ว่าเมนูไหนอยู่ส่วนใด ในระหว่างการทดลอง ให้ลองคิดว่าถ้าฉันเป็นลูกค้า ฉันจะอยากได้อะไรบ้าง ให้ทำเป็น Requirement ออกมาเลย แล้วทำให้ได้ตามนั้น และอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญคือ ให้ทดสอบในส่วนของ Disaster Recovery เอาไว้ด้วย ไม่อย่างนั้นหากไปเจอของจริงเซตได้เรียบร้อย แต่พอระบบร่วงขึ้นมา ไม่สามารถเอา Backup มาใช้ได้เพราะ Backup ไว้ผิดวิธี ได้ข้อมูลมาไม่ครบ (อันนี้ต้องระวังให้มาก เพราะเกิดขึ้นจริงมาหลายรายแล้ว)

3. กลับไป 1, 2 ใหม่ หากมั่นใจแล้วไปสอบโลด สอบเสร็จคุยได้เต็มที่เลยว่า ฉันทำได้จริงนะ มีใบรับรองด้วย

สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ โอกาสหน้าจะมาใหม่อีกรอบ

WordPress Themes