Exchange Server 2010 ทำงานได้ดีบน Windows Server 2008 R2

ปัจจุบัน Windows Server 2008 จะอยู่ในท้องตลาด 2 เวอร์ชันคือ Windows Server 2008 R2 และ Windows Server 2008 SP2 ซึ่งตัว R2 จะเป็นตัวที่สร้างขึ้นมาทีหลัง เคอร์เนลล์จะเป็นรุ่นเดียวกับ Windows 7 ในขณะที่ Windows Server 2008 SP2 จะเป็นเคอร์เนลล์รุ่นเดียวกับ Vista ระบบปฏิบัติการทั้งสองนี้สามารถติดตั้ง Exchange Server 2010 ซึ่งเป็นโซลูชันด้านระบบเมลใหม่ล่าสุดของไมโครซอฟท์ได้ทั้งคู่

ในการออกแบบการติดตั้ง Exchange Server ตั้งแต่ 2007 จะถูกแบ่งออกเป็น Role หนึ่งใน Role ที่สำคัญคือ Client Access Server (CAS) ซึ่งมีหน้าที่ในการ Authenticate ผู้ใช้งาน เป็นที่ตั้งของ Outlook Web Access เป็นที่ตั้งของ Outlook Anywhere และอื่นๆอีกมากมาย

ในกรณีที่มีผู้ใช้จำนวนมาก CAS จะใช้ทรัพยากรค่อนข้างมากตามไปด้วย การออกแบบด้านฮาร์ดแวร์จึงอาจจะต้องออกแบบให้ดีเป็นพิเศษ เช่น ต้องมีการใช้ Load Balance เข้ามาช่วย หรือใช้เซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูง

เมื่อเร็วๆนี้ผมพบบทความหนึ่งที่น่าสนใจมากจากเว็บ msexchangeteam.com โดยในบทความนี้ทางทีมงานได้ทดสอบการทำงานของ CAS โดยใช้ Xeon L5335 จำนวน 2 ตัว ได้กราฟออกมาดังรูป

CAS CPU

CAS CPU

CAS CPU 2

CAS CPU 2

จากกราฟจะเห็นได้เลยว่าเทรนด์ของ R2 เมื่อผู้ใช้มากขึ้นดูจะเพิ่มขึ้นในอัตราส่วนที่ไม่มากเท่าใดนัก ในขณะที่ SP2 เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด

อีกกราฟที่ผมเห็นว่าน่าสนใจคือการเปรียบเทียบวิธีการ Authenticate ระหว่าง Basic กับ NTLM ได้ผลออกมาดังรูป

ฺBasic vs NTLM

ฺBasic vs NTLM

จะเห็นว่าการ Authenticate แบบ NTLM ไม่ได้กินทัรพยากรมากกว่าแบบ Basic มากเท่าใดเลย ซึ่งจุดนี้ผมยอมรับเลยว่าก่อนหน้าคิดว่า NTLM น่าจะใช้ทรัพยากรสูงกว่าที่เห็นในกราฟนี้แน่ๆ

.

.

จากบทความนี้เอง ผมจึงเห็นว่าหากองค์กรใดยังใช้งาน Windows Server 2003 อยู่ และมีแผนจะอัปเกรดไปยัง Windows Server 2008 ตัวเลือกที่น่าจะเหมาะสมคงจะต้องยกให้ R2 หากคิดจะนำมาทำ Exchange Server 2010 เพราะใน Exchange 2010 การ HA ที่เรียกว่า Database High Availability Group (DAG) จะต้องติดตั้ง Exchange 2010 ลงใน OS ที่เป็นเวอร์ชันเดียวกันทุกเครื่อง จะปนกันระหว่าง R2 กับ SP2 ไม่ได้เลย

WordPress Themes